รีวิว เลนส์โปรเกรสซีฟ Rodenstock Multigressiv MyLife® 2
เลนส์โปรเกรสซีฟ Rodenstock Multigressiv MyLife® 2 เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Excellence ในผลิตภัณฑ์ของ Rodenstock
ความพิเศษของเลนส์โปรเกรสซีฟในกลุ่ม Excellence นี้คือ การนำเทคโนโลยีต่างๆที่สำคัญและส่งผลต่อคุณภาพในการมองเห็นผ่านเลนส์โปรเกรสซีฟมาใช้แทบจะครบถ้วนแล้ว นั้นทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟในกลุ่มนี้สามารถที่จะตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาทางสายตาได้ในทุกๆปัญหาค่าสายตาได้อย่างดีเยี่ยม
เทคโนโลยีที่มีความสำคัญสำหรับเลนส์กลุ่มนี้ได้แก่
Unique Customization : เทคโนโลยีการคำนวณสำหรับการออกแบบโครงสร้างเลนส์ โดยคำนวณจากตัวแปรได้แก่ ค่าสายตา ค่าแอดดิชั่น ค่าพีดี รวมถึงค่าเฉพาะของกรอบแว่นตาได้แก่ ความโค้งหน้าแว่น ความเทหน้าแว่น ระยะห่างหน้าแว่นจนถึงดวงตา มาร่วมคำนวณทำให้ได้โครงสร้างที่ดีเยี่ยมในทุกค่าสายตา
PD Optimize Inset : เทคโนโลยีการคำนวณออกแบบอินเซต(ลักษณะการเหลือบตาจากเปลี่ยนระยะการมองในระยะไกลมายังระยะการอ่านหนังสือหรือการมองในช่วงแขน) ของเลนส์โปรเกรสซีฟให้เหมาะสม ทำให้ได้พื้นที่การใช้งานในระยะต่างๆ กว้างขึ้นโดยคำนวณจากพีดี(ระยะห่างของดวงตาข้างขวาและข้างซ้าย)
Spherical Optimization : เทคโนโลยีการลดภาพบิดเบือนของเลนส์จาก Base curve effect ด้วยการนำค่าสายตาสั้น-ยาว มาคำนวณร่วมกับความโค้งหน้าเลนส์(Base Curve) เพื่อลดภาพบิดเบือนที่เกิดขึ้นเพื่อให้ได้โครงสร้างค่าสายตาที่ดีเยี่ยมในทุกค่าสายตาสั้นและสายตายาว
EyeLT® Technology : เทคโนโลยีเฉพาะของโรเด้นสต๊อก โดยการคำนวณเพื่อชดเชยสายตาเอียงและองศาเอียงที่เปลี่ยนไปขณะดูใกล้ ช่วยให้การมองที่ระยะกลางและระยะใกล้คมชัดขึ้นและยังให้มุมมองที่กว้างขึ้นจากเลนส์ทั่วไป 25%
นี่คือเทคโนโลยีที่มีในเลนส์โปรเกรสซีฟในกลุ่ม Excellence ของเลนส์โปรเกรสซีฟ Rodenstock และเทคโนโลยีดังกล่าวนี้มีตั้งแต่ในรุ่น Rodenstock Multigressiv MyView® 2 ซึ่งเป็นโปรเกรสซีฟอีกรุ่นในกลุ่มนี้ (เลนส์โปรเกรสซีฟในรุ่นที่รองลงมาจาก Multigressiv MyLife® 2)
มาเข้าถึงเนื้อหาที่จะกล่าวถึงเลนส์โปรเกรสซีฟ Rodenstock Multigressiv MyLife® 2
ความพิเศษของ Rodenstock Multigressiv MyLife® 2 ที่มีเหนือกว่า Rodenstock Multigressiv MyView® 2 ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน คือ เทคโนโลยีในการออกแบบลักษณะการใช้สายตาของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน รวมถึง ความสามารถในการออกแบบโครงสร้างเลนส์ โดยผู้ใส่สามารถมีส่วนร่วมในการออกแบบโครงสร้างได้ด้วยตนเอง ด้วยความละเอียดคอริดอร์ถึง 0.1 มม./สเตป ทำให้สามารถเน้นพื้นที่การมองเห็นนะระยะต่างๆ ตามความเหมาะสมในแต่ละบุคคล เทคโนโลยีนี้เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของเลนส์รุ่นนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีของเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่น Impression Freesign®3 (เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นสูงที่สุดของ Rodenstock)
เทคโนโลยีในการออกแบบลักษณะการใช้สายตาของแต่ละคน เราสามารถที่จะเลือกได้ว่าเรามีลักษณะการใช้สายตาไปกับกิจกรรมหลักอะไรในแต่ละวัน โดย Multigressiv MyLife® 2 มีเลือกได้ถึง 3 ลักษณะ
1.Active เน้นสำหรับผู้ใช้งานกิจกรรมกลางแจ้งเป็นส่วนใหญ่ เน้นการใช้งานที่ระยะไกล และกลาเป็นหลัก ด้วยโครงสร้างเลนส์ที่เน้นเรื่องการลดความบิดเบือนด้านข้างเป็นพิเศษ
2.Allround เหมาะสำหรับการใช้งานทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน โดยไม่เน้นระยะใดเป็นพิเศษ การออกแบบเลนส์จึงเน้นความต่อเนื่องในการมองเห็นทุกระยะ
3.Expert เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นความกว้างของมุมมองการใช้งานที่ระยะกลางและระยะใกล้เป็นหลัก
เหตุผลว่าทำไมถึงต้องเป็น Rodenstock Multigressiv MyLife® 2
ข้อดี ความคุ้มค่า เนื่องด้วยก่อนหน้านี้เทคโนโลยีการออกแบบโครงสร้างเลนส์ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้สายตาของแต่ละคนเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในโปรเกรสซีฟในรุ่น Impression Freesign®3 (เลนส์โปรเกรสซีฟที่สูงสุดของ Rodenstock เท่านั้น)ซึ่งมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 63,900 บาท แต่ ณ ตอนนี้การเปิดตัวของ Multigressiv MyLife® 2 สามารถทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีตัวนี้ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 29,700 บาทเท่านั้น ผู้ใช้งานจะได้รับความรู้สึกถึงการใส่เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นที่สูงที่สุด ในราคาที่ถูกลงมากกว่าครึ่งนั้นเอง
ข้อเสีย ข้อจำกัดของ Multigressiv MyLife® 2 คือ ข้อจำกัดของลักษณะกรอบแว่นที่ผู้สวมใส่เลือกใช้ กล่าวคือ ประสิทธิภาพของ Multigressiv MyLife® 2 ที่แสดงออกมาจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับลักษณะของกรอบแว่นตา โดยลักษณะของกรอบแว่นตาส่งผลถึงการวางตัวของเลนส์ทำมุมอย่างไรกับดวงตาของเรา ยกตัวอย่างแว่นบางตัวมีความโค้งหน้าแว่นน้อย แว่นบางตัวมีความโค้งหน้าแว่นมาก แว่นบางตัวใส่แล้วเลนส์ชิดตา แว่นบางตัวใส่แล้วเลนส์ห่างจากดวงตามาก โดย Multigressiv MyLife® 2 จะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่ออยู่บนกรอบแว่นตาที่ลักษณะเหมาะสมคือ ความโค้งหน้าแว่นทำมุมกับดวงตาที่ 5 องศา(แว่นไม่โค้งหรือตรงมากจนเกินไป) มีมุมเทหน้าแว่น7-8 องศา และมีระยะห่างจากดวงตาจนถึงเลนส์อยู่ในราวๆ 12-13 มิลลิเมตร ดังนั้นข้อจำกัดนี้อาจจะส่งผลถึงผู้ที่ชื่นชอบกรอบที่มีลักษณะที่มีความเป็นแฟชั่นสูง เช่นมีความโค้งหน้าแว่นมากหรือชอบกรอบที่มีลักษณะทรงสปอร์ต ซึ่งจะส่งผลทำให้ประสิทธิภาพจากเลนส์ Multigressiv MyLife® 2 ด้อยลง หากผู้ใช้ชอบกรอบในลักษณะนั้นจริงๆ Rodenstock Impression Freesign®3(เลนส์โปรเกรสซีฟที่สูงสุดของ Rodenstock)หรือ Rodenstock Impression®2จะอาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าเพราะสามารถแก้ไขปัญหาของลักษณะกรอบแว่นตาได้ในทุกๆกรณีนั้นเองครับ)
***เราสามารถแก้ไขข้อจำกัดของกรอบแว่นได้โดยการดัดแว่นโดยมีเงื่อนไขว่าวัสดุของกรอบชนิดนั้นต้องสามารถที่จะดัดไปในรูปทรงที่เหมาะสมตรงตามสเปคที่ Multigressiv MyLife® 2 ต้องการได้ เพียงเท่านี้ผู้บริโภคก็จะสัมผัสถึงการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟเสมือนรุ่นที่สูงที่สุดของ Rodenstock ในราคาที่ถูกกว่าครึ่งแล้วครับ***
เลนส์โปรเกรสซีฟ Rodenstock Multigressiv MyLife® 2 เหมาะสำหรับใคร
- ผู้ที่มีปริมาณค่าสายตาสั้น-ยาวสูง
- ผู้ที่มีปริมาณค่าสายตาสองข้างแตกต่างกัน(Anisometropia)
- ผู้ที่มีค่าสายตาเอียงในปริมาณสูง รวมถึงมีแกนองศาเอียงในแนวเฉียง(Obligue)
- ผู้ที่มีค่าพีดี(ระยะห่างของดวงตาข้างขวาและข้างซ้าย) กว้างหรือแคบกว่ามาตรฐาน
- ผู้ที่มีลักษณะการใช้สายตาที่เจาะจงกับลักษณะงานโดยสามารถเลือกได้ 3 ชนิด
Active เหมาะสำหรับการกิจกรรมกลางแจ้ง
Allround เหมาะสำหรับกิจกรรมทั่วไปแบบผสมทุกระยะการใช้งาน
Expert เหมาะสำหรับกิจกรรมการทำงานในระยะใกล้ เช่นงานเอกสาร คอมพิวเตอร์
ราคาเลนส์โปรเกรสซีฟ Rodenstock Multigressiv MyLife® 2