Ray-Ban RX5327D 2000-55
Ray-Ban RX5327D 2000-55
Ray-Ban RX5327D 2000-55
Ray-Ban RX5327D 2000-55
thezettoptic

Ray-Ban RX5327D 2000-55

ราคาปกติ 4,250.00 ฿ ราคาพิเศษ 2,500.00 ฿ ส่วนลด 1,750.00 ฿
1 มีสินค้า

รายละเอียดสินค้า

แบรนด์ Ray-b\Ban รุ่น RX5327D 2000-55

ความกว้างเลนส์แว่นตา  55 มิลลิเมตร
ความสูงเลนส์แว่นตา     37 มิลลิเมตร
ความกว้างสะพานจมูก  17 มิลลิเมตร
ความยาวขาแว่น         145 มิลลิเมตร

สิทธิพิเศษเมื่อซื้อกรอบแว่นตาจากร้าน Thezettoptic By Optometrist

  1. ส่วนลดเลนส์สายตาในทุกแบรนด์ 20% จากราคาปกติ
  2. ส่วนลดเลนส์สายตาในราคาพิเศษ (เฉพาะเลนส์ที่ร่วมรายการดังต่อไปนี้)

     เลนส์ชั้นเดียว

  • เลนส์ชั้นเดียวมัลติโค้ทย่อบาง
    Stellify By Hoya รุ่น 1.6 VP จากราคาปกติ 2,300 บาทลดเหลือ 1,500 บาท
  • เลนส์ชั้นเดียวป้องกันแสงสีฟ้า
    Stellify By Hoya รุ่น 1.55 Bluecontrol VP จากราคาปกติ 2,300 บาทลดเหลือ 1,500 บาท
  • เลนส์ชั้นเดียวมัลติโค้ท+กันแสงสีฟ้า
    Carl Zeiss  รุ่น 1.56 AS Blueprotect จากราคาปกติ 3,000 บาทลดเหลือ 2,000 บาท
  • เลนส์ชั้นเดียวย่อบาง+เปลี่ยนสีอัตโนมัติ
    Carl Zeiss  รุ่น 1.56 AS Photofusion จากราคาปกติ 6,000 บาทลดเหลือ 4,000 บาท
    Carl Zeiss  รุ่น 1.6 AS Photofusion จากราคาปกติ 7,800 บาทลดเหลือ 5,200 บาท

     เลนส์ชั้นเดียวคืออะไร? 
     เลนส์มัลติโค้ท เลนส์บลู/ป้องกันแสงสีฟ้า เลนส์ออโต้ คืออะไร?
     เลนส์ย่อบางคืออะไร?
     เลนส์โปรเกรสซีฟคืออะไร?

1.50 1.60 1.67 1.74 …ตัวเลขกำกับเหล่านี้ที่เราเห็นกันในขณะเลือกชมสินค้าประเภทเลนส์แว่นตา เราเรียกว่า Refractive Index ของเลนส์ หรือถ้าให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ก็เปรียบเสมือนกับ “วัสดุ” ที่นำมาใช้ในการผลิตเลนส์

แรกเริ่มเดิมที วัสดุหรือน้ำยาสารตั้งต้น เหล่านี้เป็นของเหลว ก่อนที่จะถูกหลอมขึ้นเป็นชิ้นเลนส์ แต่ก็มีวัสดุบางชนิดที่สารตั้งต้นเป็นของแข็ง เช่น Polycarbonate ซึ่งเป็นวัสดุสำหรับทำเลนส์นิรภัย

น้ำยาหรือวัสดุที่นำมาใช้ก่อนหลอมเป็นเลนส์มีด้วยกันอยู่หลายชนิดได้แก่ 

CR39 , MR8 , MR7 , MR174 หรืออาจจะมีชื่ออื่นๆแล้วแต่บริษัทที่คิดค้นน้ำยาขึ้น

แต่ละวัสดุเมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นเลนส์จะมีคุณสมบัติของเลนส์ที่ต่างกันในแง่กำลังการหักเหแสง และความหนาบางของเลนส์ที่ได้

วัสดุ CR39 เมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นชิ้นเลนส์จะมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.5 หรือเป็นค่ามาตรฐาน

ในขณะที่ วัสดุ MR174 เมื่อถูกหล่อขึ้นเป็นชิ้นเลนส์จะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.74 ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่า

Credit Picture https://www.optometrists.org/general-practice-optometry/optical/guide-to-optical-lenses/guide-to-high-index-lenses/

เลนส์ที่มีกำลังการหักเหแสงที่มากกว่าจะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีความหนาเลนส์ที่น้อยกว่าหรือบางมากขึ้น

  1. วัสดุ CR39 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.50 ความหนาของเลนส์อยู่ในระดับมาตรฐาน
  2. วัสดุ MR8 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.60 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 20% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
  3. วัสดุ MR7 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.67 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
  4. วัสดุ MR174 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.74 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 40% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50

สรุปและทำความเข้าใจง่ายๆได้ว่ายิ่ง ดัชนีหักเหแสงยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เลนส์ที่ได้จะมีความบางและเบามากขึ้น

Tips

  • เลนส์ที่มีค่า Index 1.50 เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาไม่มาก รวมถึงผู้ที่เลือกใช้กรอบประเภทกรอบเต็ม
  • เรามักเรียกเลนส์ที่มีค่า Refractive index สูงว่า เลนส์ย่อบาง เลนส์ย่อบางเหมาะสำหรับคนที่มีค่าสายตามากๆ เพื่อให้เวลาที่นำเลนส์เข้ากรอบแล้วตัวเลนส์ไม่ล้นออกนอกกรอบแว่นตา และช่วยทำให้ตัวแว่นนั้นมีน้ำหนักไม่หนักจนเกินไป
  • การเลือกกรอบแว่นตาก็เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเลือก Index ของเลนส์เช่นกันโดยเฉพาะผู้ที่ใช้กรอบแว่นตาชนิดไร้กรอบ หรือ กรอบเซาะร่อง อาจจะต้องพิจารณาใช้วัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปเนื่องจากตัวเลนส์จะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าวัสดุเลนส์ Index 1.50 การเลือกวัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปจะลดความเสี่ยงในการเกิดการกระเทาะแตกของเลนส์ได้