เลนส์ชั้นเดียวเปลี่ยนสีอัตโนมัติ Carl Zeiss Clearview Photofusion X

เลนส์ชั้นเดียวเปลี่ยนสีอัตโนมัติ Carl Zeiss Clearview Photofusion X

Regular price7,200.00 ฿
/

ZEISS Clearview photofusion X

ด้วยเทคโนโลยีโฟโตโครมิกอันล้ำสมัยของ Zeiss ที่จะช่วยเปลี่ยนเลนส์แว่นตาของคุณให้เข้มขึ้นได้ เปรียบเสมือนแว่นกันแดดทันทีที่ออกกลางแจ้ง รวมกับการป้องกันแสงสีน้ําเงินในตัวทําให้ PhotoFusion® X เป็นทางออกให้กับคุณทุกสภาพแสงได้ตลอดทั้งวัน

ด้วยคุณสมบัติการเปลี่ยนสีที่สมบูรณ์แบบ

  • เลนส์เปลี่ยนสีเมื่ออยู่กลางแจ้ง และให้สีเข้มเทียบเท่ากับแว่นกันแดด
  • คืนใสได้อย่างรวดเร็ว ทันทีที่เข้ามาในที่ร่ม
  • พร้อมการป้องกันแสงสีน้ำเงินและแสง UV อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งกลางแจ้งและที่ร่ม

เลนส์ Zeiss Photofusion X เหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่ดวงตามีความไวต่อแสง เมื่อสภาพแสงมีการเปลี่ยนแปลง
  • ผู้ที่ต้องการเลนส์เปลี่ยนสีที่เปลี่ยนจากใสเป็นสีเข้มอย่างรวดเร็ว
  • ผู้ที่ต้องการการป้องกันสําหรับแสงทุกชนิด
ZEISS ClearView single vision lenses
การเพิ่มประสิทธิภาพการขัดผิวเลนส์แบบ Free-Form Technology ที่มีความละเอียดสูงสุดแบบ Point-by-point มากกว่า 700 จุด
ช่วยเพิ่มคุณภาพการมองเห็นที่สูงสุดของผู้สวมใส่

    ผลลัพธ์ที่ได้ :
    * พื้นที่การมองเห็นที่ชัดเจนกว่าเลนส์สต็อกมาตรฐานถึง 3 เท่า*
    * เลนส์แบนกว่าเลนส์สต็อกมาตรฐานถึง 49%**
    * เลนส์บางกว่าเลนส์สต็อกมาตรฐานถึง 16%***

     
    ZEISS DuraVision lens coatings
    ด้วยเลนส์ Zeiss ที่ใช้สารเคลือบผิวเลนส์ที่เรียกว่า DuraVision® ที่จะช่วยเสริมเลนส์ของคุณด้วยชั้นบาง ๆ ที่มองไม่เห็นเพื่อความทนทานและป้องกันแสงสะท้อน เลนส์ใสได้นานและเห็นชัดเจนด้วยการเคลือบเลนส์ ZEISS DuraVision ที่คุณเลือกเพื่อเสริมและปกป้องแว่นตาของคุณ ด้วยคุณสมบัติ
    •  Back surface UV protection : ป้องกันรังสียูวีบนพื้นผิวด้านหลัง
    • Thermally cured hard coating : การเคลือบแข็งที่บ่มด้วยความร้อน เพื่อความทนทาน ลดโอกาสเกิดรอยขีดข่วน
    • Anti-static layer : เพื่อป้องกันการเกาะของฝุ่นและสิ่งสกปรก
    • Anti-reflective coating stack : ช่วยขจัดแสงจ้าและแสงสะท้อน
    • Water & oil repellent top coat : ลดการเกาะของผิวน้ำ สิ่งสกปรก และน้ำมัน

    • Eye protection : การป้องกันรังสียูวีเต็มรูปแบบมีให้ในเลนส์ ZEISS ClearView นอกจากนี้ยังมี ZEISS BlueGuard สําหรับการป้องกันแสงสีฟ้าในตัว
    • Durability & care : การเคลือบ anti-reflective ที่ทนทานเป็นสิ่งจําเป็นหากคุณต้องการเลนส์ที่ดูดี ป้องกันรอยขีดข่วนและทําความสะอาดได้ง่าย ในขณะที่เลนส์ชั้นเดียวมาตรฐานจํานวนมากละเลยส่วนผสมที่สําคัญนี้ เลนส์ ClearView ของคุณจะถูกเสริมด้วยการเคลือบ ZEISS DuraVision ที่คุณเลือก
    • Thickness & Weight : นอกเหนือจากการออกแบบเลนส์ที่ปรับให้เหมาะสมแล้ว แว่นตา ZEISS ClearView ยังมีอยู่ในดัชนีที่หลากหลายเพื่อให้บาง เบา และใส่สบายที่สุด 

    * Based on a visual clarity simulation on a 50 mm diameter lens area for 1.60 index ZEISS ClearView FSV lenses compared to 1.60 ZEISS AS FSV lenses. Average of +5D, +3D, +1D, -1D, -3D, -5D and -7D with and without a cylinder of -2D. Quantitative analyses by Technology & Innovation, Carl Zeiss Vision GmbH, 2020.

    **Measurements of lens flatness (base curve) on 1.60 ZEISS ClearView FSV lenses compared to ZEISS SPH FSV lenses over a range of prescriptions (-5D, -3D, -1D, +1D, +3D, +5D with and without cyl -2D). Maximum reduction of 49 % of -5.00D with and without cyl -2D. Quantitative analyses by Technology & Innovation, Carl Zeiss Vision GmbH, 2020.

    ***Measurements of lens thickness on 1.60 ZEISS ClearView FSV lenses compared to ZEISS SPH FSV lenses over a range of prescriptions (-5D, -3D, -1D, +1D, +3D, +5D with and without cyl -2D). Maximum reduction of 16 % for centre thickness of +5.00/-2.00. Quantitative analyses by Technology & Innovation, Carl Zeiss Vision GmbH, 2020.




    1.50 1.60 1.67 1.74 …ตัวเลขกำกับเหล่านี้ที่เราเห็นกันในขณะเลือกชมสินค้าประเภทเลนส์แว่นตา เราเรียกว่า Refractive Index ของเลนส์ หรือถ้าให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ก็เปรียบเสมือนกับ “วัสดุ” ที่นำมาใช้ในการผลิตเลนส์

    แรกเริ่มเดิมที วัสดุหรือน้ำยาสารตั้งต้น เหล่านี้เป็นของเหลว ก่อนที่จะถูกหลอมขึ้นเป็นชิ้นเลนส์ แต่ก็มีวัสดุบางชนิดที่สารตั้งต้นเป็นของแข็ง เช่น Polycarbonate ซึ่งเป็นวัสดุสำหรับทำเลนส์นิรภัย

    น้ำยาหรือวัสดุที่นำมาใช้ก่อนหลอมเป็นเลนส์มีด้วยกันอยู่หลายชนิดได้แก่ 

    CR39 , MR8 , MR7 , MR174 หรืออาจจะมีชื่ออื่นๆแล้วแต่บริษัทที่คิดค้นน้ำยาขึ้น

    แต่ละวัสดุเมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นเลนส์จะมีคุณสมบัติของเลนส์ที่ต่างกันในแง่กำลังการหักเหแสง และความหนาบางของเลนส์ที่ได้

    วัสดุ CR39 เมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นชิ้นเลนส์จะมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.5 หรือเป็นค่ามาตรฐาน

    ในขณะที่ วัสดุ MR174 เมื่อถูกหล่อขึ้นเป็นชิ้นเลนส์จะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.74 ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่า

    Credit Picture https://www.optometrists.org/general-practice-optometry/optical/guide-to-optical-lenses/guide-to-high-index-lenses/

    เลนส์ที่มีกำลังการหักเหแสงที่มากกว่าจะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีความหนาเลนส์ที่น้อยกว่าหรือบางมากขึ้น

    1. วัสดุ CR39 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.50 ความหนาของเลนส์อยู่ในระดับมาตรฐาน
    2. วัสดุ MR8 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.60 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 20% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
    3. วัสดุ MR7 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.67 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
    4. วัสดุ MR174 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.74 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 40% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50

    สรุปและทำความเข้าใจง่ายๆได้ว่ายิ่ง ดัชนีหักเหแสงยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เลนส์ที่ได้จะมีความบางและเบามากขึ้น

    Tips

    • เลนส์ที่มีค่า Index 1.50 เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาไม่มาก รวมถึงผู้ที่เลือกใช้กรอบประเภทกรอบเต็ม
    • เรามักเรียกเลนส์ที่มีค่า Refractive index สูงว่า เลนส์ย่อบาง เลนส์ย่อบางเหมาะสำหรับคนที่มีค่าสายตามากๆ เพื่อให้เวลาที่นำเลนส์เข้ากรอบแล้วตัวเลนส์ไม่ล้นออกนอกกรอบแว่นตา และช่วยทำให้ตัวแว่นนั้นมีน้ำหนักไม่หนักจนเกินไป
    • การเลือกกรอบแว่นตาก็เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเลือก Index ของเลนส์เช่นกันโดยเฉพาะผู้ที่ใช้กรอบแว่นตาชนิดไร้กรอบ หรือ กรอบเซาะร่อง อาจจะต้องพิจารณาใช้วัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปเนื่องจากตัวเลนส์จะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าวัสดุเลนส์ Index 1.50 การเลือกวัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปจะลดความเสี่ยงในการเกิดการกระเทาะแตกของเลนส์ได้

    Recently viewed