เลนส์ชั้นเดียวเปลี่ยนสีอัตโนมัติ Hoya Nulux VG Sensity 2

เลนส์ชั้นเดียวเปลี่ยนสีอัตโนมัติ Hoya Nulux VG Sensity 2

Regular price8,400.00 ฿
/

เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติ Sensity 2

hoya sensity

ไม่สำคัญว่าคุณจะไปท้าลมร้อนปะทะยูวีที่ไหน เมื่อใช้เลนส์ปรับเปลี่ยนสีอัตโนมัติ Sensity 2 พวกเขาก็พร้อมสนุกได้ในสถานที่หลากหลายรูปแบบ เลนส์ Sensity 2 จะช่วยให้เลนส์แว่นตาของคุณเปลี่ยนสีให้เข้มขึ้นเปรียบเสมือนเลนส์กันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง และกลับมาใสปกติเมื่อเข้าร่มภายใน 5 นาที

ด้วยเทคโนโลยี  Stabilight Technology ใน Sensity 2 ช่วยให้การเปลี่ยนสีทำได้รวดเร็วมากขึ้นและมีความเสถียรของการเปลี่ยนสีในทุกสภาวะแวดล้อม

เทคโนโลยี  Deep and natural colour options ช่วยลดสภาวะของแสงกระจาย (Glare)

และเทคโนโลยี Precision technology ที่ช่วยให้สารเปลี่ยนสีผสมผสานเข้าเป็นเนื้อเดียวกับวัสดุเลนส์ได้ในทุกวัสดุ ทำให้สามารถทำในเลนส์ที่มีดัชนีหักเหแสงสูงได้

เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติ  Sensity  เหมาะกับใครบ้าง?

  • ผู้ที่มีประสบการณ์การใส่เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติมาก่อน

  • ผู้ที่ดวงตามีความละเอียดอ่อนต่อการเจอแสงจ้าหรือมีอาการแพ้แสง

  • ผู้ที่ต้องการการปกป้องดวงตาภายหลังการผ่าตัดดวงตาทุกตาทุกชนิด

  • ผู้ที่ต้องการการปกป้องดวงตาจากแสง UV อยู่ตลอดเวลา

  • ผู้ที่ต้องการความคมชัดและความสบายตาของเลนส์ตลอดเวลาในทุกสภาพแสง

และด้วยเทคโนโลยีการเคลือบผิวเลนส์มัลติโค้ท VG จาก Hoya ที่มาพร้อมกับ 5 เทคโนโลยี

- ป้องกันแสงสะท้อน : ที่อาจก่อให้เกิดความรำคาญและทำให้ดวงตาเมื่อยล้า ซึ่งการเคลือบนี้จะขจัดแสงสะท้อน รวมถึงมอบความผ่อนคลายแก่ดวงตาและการป้องกันที่สมบูรณ์แบบ

- ทนต่อรอยขีดข่วน : เพราะรอยขีดข่วนนั้นเกิดขึ้นได้ง่าย สารเคลือบที่แข็งมากนี้จะช่วยลดโอกาสการเกิดรอยขีดข่วนให้เหลือน้อยที่สุด

- เลนส์กันฝุ่น : ด้วยพื้นผิวเลนส์ที่เรียบเนียนอย่างมากและคุณสมบัติทำความสะอาดง่าย ทำให้ง่ายต่อการเช็ดคราบมันและฝุ่นออกจากเลนส์ แม้จะใช้มาเป็นเวลานานและเช็ดคราบแล้วหลายครั้ง 

- ป้องกันไฟฟ้าสถิต : ป้องกันการเกาะของฝุ่นบนผิวเลนส์ ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนในทุกสถานการณ์

- กันน้ำ : ช่วยให้แน่ใจว่าหยดน้ำจะเกาะพื้นผิวเลนส์น้อยที่สุด วางใจได้ว่าจะมองเห็นชัดเจนแม้ฝนตกหรือเกิดการควบแน่น 

ด้วยประสิทธิภาพและการปกป้องการเคลือบผิวเลนส์กันสะท้อนที่คงทนที่สุดของเรา ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็น การเคลือบผิวสะท้อนที่ทนทานที่สุด สัมผัสกับการมองเห็นที่ชัดเจนและสบายตาเป็นพิเศษ พร้อมวางใจได้ว่ารูปลักษณ์และการใช้งานของเลนส์จะคงอยู่อย่างยาวนาน

เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติ Hoya Nulux VG Sensity 2 มีโครงสร้างเลนส์แบบ Aspherical Design ที่มาพร้อมคุณสมบัติหลัก 3 ประการ

  1. เพิ่มมุมมองการมองเห็นให้กว้างขวางมากขึ้น

  2. ช่วยให้ตัวเลนส์มีน้ำหนักที่บางและบางมากขึ้น

  3. ช่วยลดกำลังขยายของภาพ ช่วยให้การมองเห็นผ่านเลนส์มีความสมจริงและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

 



1.50 1.60 1.67 1.74 …ตัวเลขกำกับเหล่านี้ที่เราเห็นกันในขณะเลือกชมสินค้าประเภทเลนส์แว่นตา เราเรียกว่า Refractive Index ของเลนส์ หรือถ้าให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ก็เปรียบเสมือนกับ “วัสดุ” ที่นำมาใช้ในการผลิตเลนส์

แรกเริ่มเดิมที วัสดุหรือน้ำยาสารตั้งต้น เหล่านี้เป็นของเหลว ก่อนที่จะถูกหลอมขึ้นเป็นชิ้นเลนส์ แต่ก็มีวัสดุบางชนิดที่สารตั้งต้นเป็นของแข็ง เช่น Polycarbonate ซึ่งเป็นวัสดุสำหรับทำเลนส์นิรภัย

น้ำยาหรือวัสดุที่นำมาใช้ก่อนหลอมเป็นเลนส์มีด้วยกันอยู่หลายชนิดได้แก่ 

CR39 , MR8 , MR7 , MR174 หรืออาจจะมีชื่ออื่นๆแล้วแต่บริษัทที่คิดค้นน้ำยาขึ้น

แต่ละวัสดุเมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นเลนส์จะมีคุณสมบัติของเลนส์ที่ต่างกันในแง่กำลังการหักเหแสง และความหนาบางของเลนส์ที่ได้

วัสดุ CR39 เมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นชิ้นเลนส์จะมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.5 หรือเป็นค่ามาตรฐาน

ในขณะที่ วัสดุ MR174 เมื่อถูกหล่อขึ้นเป็นชิ้นเลนส์จะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.74 ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่า

Credit Picture https://www.optometrists.org/general-practice-optometry/optical/guide-to-optical-lenses/guide-to-high-index-lenses/

เลนส์ที่มีกำลังการหักเหแสงที่มากกว่าจะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีความหนาเลนส์ที่น้อยกว่าหรือบางมากขึ้น

  1. วัสดุ CR39 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.50 ความหนาของเลนส์อยู่ในระดับมาตรฐาน
  2. วัสดุ MR8 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.60 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 20% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
  3. วัสดุ MR7 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.67 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
  4. วัสดุ MR174 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.74 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 40% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50

สรุปและทำความเข้าใจง่ายๆได้ว่ายิ่ง ดัชนีหักเหแสงยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เลนส์ที่ได้จะมีความบางและเบามากขึ้น

Tips

  • เลนส์ที่มีค่า Index 1.50 เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาไม่มาก รวมถึงผู้ที่เลือกใช้กรอบประเภทกรอบเต็ม
  • เรามักเรียกเลนส์ที่มีค่า Refractive index สูงว่า เลนส์ย่อบาง เลนส์ย่อบางเหมาะสำหรับคนที่มีค่าสายตามากๆ เพื่อให้เวลาที่นำเลนส์เข้ากรอบแล้วตัวเลนส์ไม่ล้นออกนอกกรอบแว่นตา และช่วยทำให้ตัวแว่นนั้นมีน้ำหนักไม่หนักจนเกินไป
  • การเลือกกรอบแว่นตาก็เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเลือก Index ของเลนส์เช่นกันโดยเฉพาะผู้ที่ใช้กรอบแว่นตาชนิดไร้กรอบ หรือ กรอบเซาะร่อง อาจจะต้องพิจารณาใช้วัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปเนื่องจากตัวเลนส์จะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าวัสดุเลนส์ Index 1.50 การเลือกวัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปจะลดความเสี่ยงในการเกิดการกระเทาะแตกของเลนส์ได้

Recently viewed